วันเสาร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

รามเกียรติ์ ตอนที่นิยมทำการแสดง

รามเกียรติ์ ตอนที่นิยมทำการแสดง


ตอนนางลอย

 ทศกัณฐ์ คิดหาทางยุติศึกชิงตัว นางสีดา กับพระราม โดยคิดว่าถ้า พระราม เห็นว่านางสีดา ตายไปแล้วก็คงจะยกทัพกลับไปเอง  จึงวางแผนให้ นางเบญกาย ลูกสาวของพิเภก แปลงกายเป็นนางสีดา ทำตายลอยน้ำไปที่หน้ากองทัพพระราม รุ่งเช้า พระราม ตื่นบรรทมพร้อมพระลักษณ์ 

จึงตรัสชวนพระลักษณ์และเหล่าวานร ไปสรงน้ำริมฝั่งแม่น้ำครั้นเห็น นางเบญกาย แปลง ตายลอยน้ำมา พระรามเข้าใจว่าเป็นนางสีดา จึงวิ่งเข้าอุ้มนางมาบนฝั่ง  หนุมาน เกิด เฉลียวใจว่านางสีดานี้อาจเป็นยักษ์แปลงมา เพราะตามร่างกายของศพไม่มีร่องรอยของการถูกทำร้ายและลอยทวนน้ำมาจนถึงหน้าพลับพลาเหมือนจงใจ จึงขอพิสูจน์โดยการนำศพมาเผาไฟ 

ถ้าเป็นนางสีดาจริง หนุมานยอมถูกประหารชีวิต พระรามเห็นด้วยจึงสั่งให้ สุครีพ ทำเชิงตะกอนเพื่อเผาศพ เมื่อเชิงตะกอนเสร็จจึงให้นำศพนางสีดามาวางบนเชิงตะกอนแล้วจุดไปเผา โดยเหล่าทหารวานรล้อมไว้ เบญกายครั้นโดนไฟเผาทนร้อนไม่ไหวจึงเหาะขึ้นตามเปลวควันหนีไป หนุมานจึงเหาะขึ้นไปตามจับนางเบญกาย มาถวายพระราม

ที่มา : https://www.komchadluek.net/news/edu-health/263191


นารายณ์ปรานนทุก

นนทกนั่งประจำอยู่ที่บันไดของเขาไกลลาศ  โดยมีหน้าที่ล้างเท้าให้แก่เหล่าเทวดาที่มาเข้าเฝ้าพระอิศวร  ได้ยื่นเท้าให้ล้างแล้วมักแหย่เย้าหยอกล้อ นนทกอยู่เป็นประจำ  ด้วยการลูบหัวบ้าง  ถอนผมบ้างจนกระทั่งหังโล้นทั้งศรีษะ  นนทกแ้นใจมากแต่ว่าตนเองไม่มีกำลังจะสู้ได้  จึงไปเข้าเฝ้าพระอิศวร แล้วกราบทูลว่า ตนได้ทำงานรับใช้พระองค์มานานถึง 10 ล้านปี  ยังไม่เคยได้รับสิ่งตอบแทนใดๆเลย  

จึงทูลขอให้นิ้วเพชร  มีฤทธฺ์ชี้ผู้ใดก็ให้ผู้นั้นตาย   พระอิศวรเห็นว่านนทกปฏิบัติหน้าที่รับใช้พระองค์มานานจึงประทานพรให้ตามที่ขอ  ไม่นานนักนนทกก็มีใจกำเริบ  เพียงแต่ถูกเทวดามาลูบหัวเล่นเช่นเคย  นนทกก็ชี้ให้ตายเป็นจำนวนมาก   พระอิศวรทรงทราบก็ทรงกริ้ว  

โปรดให้พระนาายณ์ไปปราบ พระนารายณ์ แปลวเป็นนางฟ้ามายั่วยวน  นนทกนึกรักจึงเกี่ยวนาง  นางแปลงจึงชักชวนให้นนทกรำตามนางก่อนจึงจะรับรัก  นนทกรำตามไปจนถึงท่ารำที่ใช้นิ้วเพชรชี้ขาตนเองนนทกก็ลมลง จากนั้นนนทกเห็นนางแปลงร่างเป็นพระนารายณ์  จึงตอบว่า พระนารายณ์  ว่าเอาเปรียบตนเพราะว่าพระนารายณ์มีอำนาจ  มีถึง 4  กร  แต่ตนมีแค้ 2 มือ  และเหตุใดจึงมาทำอุบายหลอกลวงตนอีก  พระนารายณ์จึงท้าให้นนทก  ไปเกิดใหม่ให้มี  20 มือ  

แล้วพระองค์จะตามไปเกิดเป็นมนุษย์มีเพียง 2 มือ  ลงไปสู้กัน  หลังจากที่พระนารายพูดจบก็ใช้พระแสงตรีตัดศรีษะนนทกแล้วนนทกก็สิ้นใจตาย ชาติต่อมานนทกจึงได้ไปเกิดเป็นทศกรรฐ์   ส่วนพระนารายณ์ก็อวตารลงมาเกิดเป็นพระราม

ที่มา:https://sites.google.com/site/kjhgjjhy/home/khwam-pen-ma-reuxng-ramkeiyrti/neux-reuxng-ramkeiyrti-txn-na-ray-n-prab-n-nthk


จองถนน

การจะบุกไปกรุงลงกานั้นมิใช่เรื่องยากเย็นอะไรสำหรับฝ่ายพระรามที่มีไพร่พลลิงที่มีฤทธิ์เดชมากมาย ทั้งสุครีพ หนุมาน พาลี ฯลฯ เพียงแค่ใช้พลังอิทธิฤทธิ์ก็เหาะไปถึงกรุงลงกาภายในพริบตา หรือมีอีกหลากวิธี เช่น ให้โน้มพระเมรุบรรพตใช้เป็นทาง, วิดน้ำในทะเลให้แห้งข้ามไป, ให้ลิงขยายร่างใหญ่โต นำไพร่พลลิงใส่มือข้ามไป, นิมิตเป็นสำเภาใหญ่ใช้ข้ามไป หรือแม้แต่เอาหางพาดเชื่อมสองฝั่ง ให้ไพร่พลลิงไต่ข้ามไป

แต่ลิงนามว่า ชามพูวราช กราบทูลพระรามว่า การจะทำสิ่งเหล่านั้นไม่สมพระเกียรติยศ สมควรให้ไพร่พลลิงไปขนหินมาทิ้งลงทะเล หรือ “จองถนน” ข้ามไปยังกรุงลงกา ซึ่งพระรามก็ทรงเห็บชอบด้วยกับแผนการนี้พระรามทรงมอบหมายให้สุครีพไปทำการจองถนน สุครีพจึงสั่งให้นิลพัทคุมไพร่พลลิงเมืองชมพู หนุมานคุมไพร่พลลิงเมืองขีดขิน ผลัดกันรับส่งนำหินทิ้งลงทะเลให้เป็นถนนข้ามไปยังกรุงลงกา

แต่นิลพัทกับหนุมานเกิดทะเลาะวิวาทต่อสู้กัน จนเกิดเสียงดังกัมปนาท “พสุธาอากาศไหวหวั่น โพยมพยับอับแสงสุริยัน คลุ้มควันมืดฟ้าธาตรี” พระรามรับสั่งให้พระลักษณ์ไปตรวจสอบดู พบว่านิลพัทกับหนุมานต่อสู้กันจึงนำตัวมาเข้าเฝ้าพระราม

พระรามเมื่อทรงทราบก็กริ้วมาก “ได้ฟังคั่งแค้นแน่นอุรา โกรธาดั่งไฟบรรลัยกาล” รับสั่งว่า ใช้ให้ไปจองถนน แต่เหตุใดต่างตนจึงอวดกล้า กระทำเรื่องไม่กลัวพระราชอาญาเช่นนี้ หากแม้นว่าไม่ติดพันสงคราม จะตัดเศียรประหารชีวิตเสีย

สุครีพกราบทูลขอให้ทรงผ่อนผัน มิให้ลงพระราชอาญาถึงตาย จึงกราบทูลถวายคำแนะนำ พระรามทรงเห็นชอบด้วยคำแนะนำนี้ จึงมีพระบัญชาให้นิลพัทไปรักษาเมืองขีดขิน คอยส่งเสบียงอาหารให้กองทัพทุกเดือน หากไม่จัดส่งเสบียงตามกำหนด “กูจะผลาญให้ม้วยชีวัน” ส่วนหนุมานให้ไปจองถนนให้เสร็จภายใน 7 คืน หากจองถนนไม่เสร็จตามกำหนด กูจะผลาญชีวีให้วายปราณ” เช่นกัน จากนั้น หนุมานเป็นผู้ควบคุมไพร่พลลิงทั้งหมดไปขนหินเพื่อมาจองถนน

หนุมานจับนางสุพรรณมัจฉา

ไพร่พลลิงนำหินมาวางกองไว้ริมฝั่ง แล้วจึงนำไปทุ่มทิ้งลงไปในทะเล หนุมานทิ้งหินก้อนใหญ่ลงทะเล สร้างเป็นแนวถนนใหญ่ พวกไพร่พลลิงต่างก็โห่ร้องสนั่นหวั่นไหว แล้วการจองถนนก็ดำเนินขึ้น ยักษ์ฝ่ายทศกัณฐ์ที่ลาดตระเวนอยู่นั้น เมื่อเห็นลิง “หาบขนเอาก้อนศิลา มาทอดลงคงคาดั่งห่าฝน” ก็ตกใจรีบกลับกรุงลงกาไปแจ้งข่าว เมื่อทศกัณฐ์ทราบข่าวก็ร้อนใจมิใช่น้อย เกรงว่าหากฝ่ายพระรามจองถนนข้ามมาถึงกรุงลงกาจะเดือดร้อนกันไปทั่วทั้งเมือง จึงวางแผนให้สุพรรณมัจฉาและพวกปลา “ล้างถนนศิลาเสียให้ได้”

สุพรรณมัจฉาและพวกปลาก็ขนหินที่ลิงจองถนนอยู่นั้นไปทิ้ง จนสุครีพเห็นเป็นที่ผิดสังเกตจึงแจ้งแก่หนุมาน หนุมานเองก็บอกว่า ตนก็คิดสงสัยอยู่เช่นกัน จึงว่ายน้ำลงไปตรวจสอบดู ก็พบสุพรรณมัจฉาและพวกปลา หนุมานเจรจากับสุพรรณมัจฉา พูดจาหวาดล้อมและได้เสียกัน จากนั้นสุพรรณมัจฉาจึงสั่งให้พวกปลาขนหินนำมาวางคืนตามแนวถนนดังเดิม

เมื่อจองถนนเสร็จสิ้น สุครีพและหนุมานก็ให้ไพร่พลลิงปรับหน้าถนนให้ราบเรียบด้วยทรายอ่อน ปักกรุย (ตรุย) หรือหลักที่ปักรายไว้เป็นเครื่องหมาย ให้พร้อมสำหรับการเดินทัพ จากนั้น

ที่มา : https://www.silpa-mag.com/culture/article_52517

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Game For Learning

 Game For Learning Wordwall แนะนำเว็บไซต์ Wordwall สร้างสื่อการสอนรูปแบบเกม หรือพิมพ์ใบงาน สร้างง่ายแค่คลิก รองรับภาษาไทย เว็บไซต์ Wordwall ...